วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2557

แบบฝึกหัดงานคอมบทที่ 4

แบบฝึกหัด บทที่ 4 อินเทอร์เน็ต
ตอนที่ 3 
ให้ตอบคำถามต่อไปนี้
3. ยกตัวอย่างการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ผิดกฎหมาย พร้อมบอกเหตุผลประกอบ

การส่งจดหมายลูกโซ่ทำให้ผู้อื่นเกิดความรำคาญ

เหตุผล
มาตรา ๑๑ ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นโดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยปกติสุข 

โทษ
ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท


วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2557

ดอกคาร์เนชั่น

5.ดอกคาร์เนชั่น





คาร์เนชั่นเป็นไม้ตัดดอกยอดนิยมชนิดหนึ่ง มีทั้งชนิดดอกเดี่ยว แบบสแตนดาร์ด
และดอกช่อ แบบสเปรย์ มีหลายพันธุ์ ดอกหลากสี ทั้งสีขาว สีเหลือง สีชมพู สีส้ม
สีแดง และม่วง บางพันธุ์ก็มีสีมากกว่าหนึ่งสีในดอกเดียวกัน และบางพันธุ์ยังมีกลิ่น
หอมอีกด้วย ถึงแม้คาร์เนชั่นจะมีกลีบดอกแบบบางแต่บานทน สามารถปลูกเป็น
ไม้ตัดดอกได้ดีในที่ที่มีอากาศหนาวเย็น ได้ดอกตลอดปี และเป็นดอกที่มีคุณภาพดี

คาร์เนชั่นมีถิ่นกำเนิดในยุโรปตอนใต้ คาร์เนชั่นที่นำเข้าส่วนใหญ่ปลูกในเรือนกระจก
ทั้งสิ้น ใช้ทำเป็นไม้ตัดดอกได้เป็นอย่างดี ให้จำนวนดอกต่อต้นนับเป็นที่ 2 รองจากกุหลาบ
การปลูกคาร์เนชั่นแต่ละครั้งอาจจะอยู่ได้เพียงฤดูเดียวหรือหลายฤดูก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ
สถานที่และการปลูกปฏิบัติรักษา บางแห่งอาจจะปลูกได้เพียงฤดูเดียว บางแห่งอาจจะ
ปลูกแล้วเก็บเกี่ยวได้นานถึง 2 -3 ปี ซึ่งตามปกติแล้วเป็นการปลูกคาร์เนชั่นในเรือนกระจก

ลักษณะทั่วไป

เป็นไม้ดอกล้มลุก ลำต้นแตกกิ่งก้าน ใบรูปแถบเรียวยาว สีเขียวเข้มอมฟ้า 
โคนใบหุ้มข้อโป่งพองเล็กน้อย ดอกมีทั้งชนิดดอกเดี่ยวและดอกช่อ กลีบรองดอกสีเขียว
รูปถ้วย กลีบดอกซ้อนฟู ขอบกลีบหยักเป็นแฉก สีขาว ชมพู เหลือง ส้ม แดง และขลิบขอบ
สีต่างๆ ดอกมีทั้งชนิดดอกซ้อนและดอกชั้นเดียว ปลายกลีบดอกจะมีลักษณะหยัก ๆ คล้าย
ฟันเลื่อย กลีบหุ้มดอก มีลักษณะรวมติดกันเป็นกรวยหุ้มกลีบดอกไว้ ดอกมีขนาดตั้งแต่
1.5 - 3 นิ้ว สีของดอกมีหลายสี คือ ขาว แดง แดงอมอม่วง และอาจจะมี 2 สีในดอกเดียวกัน


การปลูกและการดูแลรักษา

คาร์เนชั่นชอบแสงแดดจัด และอากาศเย็น จากการทดลองพบว่า คาร์เนชั่นจะให้ผลดีที่สุด
คือทั้งผลผลิตและคุณภาพของดอก ที่อุณหภูมิกลางคืน 50องศาฟาเรนไฮต์ และอุณหภูมิกลางวัน 55 องศาฟาเรนไฮต์ พื้นที่ที่เหมาะสมน่าจะเป็นบริเวณภาคเหนือ หรือ จังหวัดนครราชสีมา

ดินที่ใช้ปลูกควรเป็นดินร่วนซุย มีอินทรีย์วัตถุสูง มีการระบายน้ำดี มีอากาศถ่ายเทดี เนื่องจากคาร์เนชั่นเป็นโรคได้ง่ายมาก ดังนั้นเรื่องความสะอาดของดินจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าเป็นไปได้ควรอบฆ่าเชี้อในดินด้วยไอน้ำ หรือ สารเคมีเช่น methyl bromide ดินควรเป็นกรดเล็กน้อย pH 6.0-7.0


การขยายพันธุ์

โดยทั่วไปวิธีการขยายพันธุ์จะนิยมทำกัน 3 วิธี คือ

การใช้เมล็ด

การใช้กิ่งปักชำ ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมที่สุด

การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ



การเก็บเกี่ยวและการเก็บรักษา

การเก็บเกี่ยว

ตัดเมื่อกลีบดอกชั้นนอกเริ่มตั้งฉากกับกลีบเลี้ยง เป็นระยะที่กลีบดอกชั้นนอกเริ่มบานแต่กลีบชั้นใน
เริ่มคลี่ ถ้ามีการใช้สารเคมี Bud opening อาจจะตัดในระยะ "Paint brush" ซึ่งเป็นระยะที่กลีบดอกชั้นนอกเริ่มคลี่ ในกรณีของคาร์เนชั่นชนิดดอกช่อ (spray cultivars) ให้ตัดเมื่อดอก
ย่อย 2 ดอกเริ่มบานและดอกที่เหลือเริ่มเห็นสี การตัดใช้มีดหรือกรรไกรคมๆ ตัด ควรหลีกเลี่ยง
การตัดดอกจากต้นที่เป็นโรคอย่างชัดเจน

การเก็บรักษา

อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเก็บรักษาดอกคาร์เนชั่น ที่ยังไม่บานเต็มที่ คือ -0.5 - 0 องศาเซลเซียส โดยเก็บรักษาในสภาพแห้ง (Dry storage) ได้นาน 3-4 สัปดาห์ดอกที่บานเต็มที่อาจจะเก็บ
รักษาที่อุณหภูมิ 3-4 องศาเซลเซียส ในสภาพที่แช่ในสารเคมี ซึ่งจะเก็บรักษาได้นาน 2 สัปดาห์

ความหมาย

คาร์เนชั่นสีชมพูฉันจะไม่มีวันลืมเธอ ความรักของหญิงสาว อยู่ในใจเสมอ
คาร์เนชั่นสีแดง
- ใจของฉันแด่เธอ ความปราถนา
คาร์เนชั่นสีม่วง
- ความเอาแต่ใจ
คาร์เนชั่นลายสองสี
- การปฏิเสธ
คาร์เนชั่นสีขาว
ความไร้เดียวสา ความรักที่บริสุทธิ์
คาร์เนชั่นสีเหลือง
เธอทำให้ชั้นผิดหวัง ปฏิเสธ การเหยียดหยาม


เครดิต
http://student.nu.ac.th/sangtawan/%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99.html








วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2557

ดอกลิลลี่

4.ดอกลิลลี่



สำหรับต้นกำเนิดของดอกลิลลี่นั่นอยู่ที่ประเทศแถบเอเชียกลาง มีอยู่หลายสายพันธุ์และหลายรูปทรง ส่วนใหญ่จะไม่มีกลิ่น แต่ก็มีบ้างบางชนิดที่ให้กลิ่นหอม สำหรับสายพันธุ์ตัดดอกที่นิยมปลูกในประเทศไทยของเรามีอยู่ด้วยกัน 5 ประเภท ดังนี้ ว่ากันว่าดอกลิลลี่เป็นดอกไม้ที่มีราคาแพงมากที่สุดชนิดหนึ่งในปัจจุบัน เพราะด้วยลักษณะของกลีบดอกที่สวยงาม มีสีสวยหวานหลายเฉดสี ด้วยเสน่ห์ของรูปลักษณ์ที่แปลกตาจึงพาให้ดอกลิลลี่เป็นดอกไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก


ดอกลิลลี่

1. ลิลลี่ปากแตร ที่ได้รับชื่อนี้เพราะว่ามีรูปทรงคล้ายกับปากแตร บริเวณโคนของกลีบดอกจะติดกันแต่จะมาแยกกันที่ปลายดอกซึ่งมีทั้งหมด 6 กลีบ สายพันธุ์เดิมนั้นมีสีขาวและให้กลิ่นหอม แต่เมื่อมีการนำมาปรับปรุงสายพันธุ์ใหม่จึงทำให้มีหลากหลายสีมากขึ้น อาทิ สีชมพู สีเหลือง สีม่วง แต่ไม่มีกลิ่นหอม



ดอกลิลลี่

2. ลิลลี่ลูกผสมเอเชีย เป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมที่สุด ซึ่งกลีบดอกทั้ง 6 กลีบจะแยกออกจากกันไม่มีกลิ่นหอม และบริเวณกลีบดอกจะมีจุดเล็กๆ หรือไม่มีเลย โดยลักษณะพิเศษของลิลลี่ชนิดนี้คือดอกจะหงายขึ้นไม่คว่ำลงเหมือนชนิดอื่น มีด้วยกันหลายสี อาทิ สีเหลือง สีขาว สีส้ม สีครีม สีชมพู และสีแดง



ดอกลิลลี่

3. ลิลลี่ลูกผสมตะวันออก เป็นสายพันธุ์ที่มีกลิ่นหอมแรง กลีบดอกทั้ง 6 กลีบแยกออกจากกัน ทั้งยังมีลักษณะเด่นตรงที่ดอกด้านในคล้ายกับหนวดยื่นยาวออกมาเป็นจำนวนมาก มีหลายสี อาทิ สีชมพู สีแดง สีขาว ซึ่งลิลลี่ชนิดนี้จะออกดอกขนานกับพื้นดิน ใบมีขนาดใหญ่กว่าลิลลี่สายพันธุ์อื่น




ดอกลิลลี่

4. ลิลลี่ลายเสือ ที่เรียกว่าลิลลี่ลายเสือ เพราะกลีบดอกด้านในมีจุดประสีดำ กลีบดอกทั้ง 6 กลีบจะแยกออกจากกันตั้งแต่โคนกลีบ ช่อดอกจะคว่ำหน้าลง ไม่มีกลิ่น มีหลายสี อาทิ สีแดง สีเหลือง สีส้ม สีชมพู




ดอกลิลลี่

5. ลิลลี่ดอย เป็นลิลลี่พันธุ์พื้นเมืองของประเทศไทยอยู่แถบภาคเหนือของประเทศที่อยู่ตามดอย อาทิ ดอยอ่างขาง ดอยปุย และดอยอินทนนท์ กลีบดอกทั้ง 6 กลีบ แยกออกจากกัน จะมีกลิ่นหอมแรงมากโดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืนที่มีอากาศเย็น ลักษณะเด่นของสายพันธุ์นี้คือดอกจะคว่ำหน้าลง และดอกสีเหลืองเข้มจะมีรอยสีน้ำตาลเข้มอยู่ตรงกลางดอกแถมยังมีจุดสีน้ำตาลอยู่มากพอสมควร

วิธีปลูก

1.ใช้กระถาง 4 นิ้วหรือใหญ่กว่าสำหรับลิลลี่ 1 หัว
2.ใส่ดินร่วน หรือวัสดุปลูกเช่นพีทมอส
3.ขุดหลุมลึกประมาณ 3-5 นิ้ว โดยประมาณให้ลึกพอสำหรับฝังหัวลิลลี่ไว้ใต้ดิน
4.ใส่ปุ๋ยเร่งดอกที่ก้นหลุมแล้วใช้ดินกลบปุ๋ยไว้ชั้นหนึ่ง
5.วางหัวลิลลี่ ให้รากชี้ลงที่ก้นหลุม แล้วใช้ดินกลบหัวไว้จนมิด ถ้าหากหัวลิลลี่มีลำต้นงอกแล้ว ให้กลบดินขึ้นไปถึงโคนต้นประมาณ 1 นิ้ว
6.รดน้ำให้ชุ่ม หลังจากนั้นรดน้ำวันละครั้ง หรือรดน้ำวันเว้นวันหากใช้พีทมอส

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

1.ดินสำหรับปลูกลิลลี่ ควรเป็นดินโปร่งร่วน ระบายน้ำได้ดี หรือใช้พีทมอสที่มีน้ำหนักเบา
2.ต้องการแสงร่ม-รำไร ไม่ควรถูกแสงแดดโดยตรง
3.อุณหภูมิที่เหมาะสม ประมาณ 20-32 องศาเซลเซียส
4.ควรรดน้ำวันละครั้ง หรือสองวันครั้ง โดยไม่ควรให้ดินแฉะ เนื่องจากรากและหัวจะเน่า และไม่ควรรดโดนดอกและใบ

ความหมาย
ลิลลี่ขาวอยากบอกเธอว่า "เธอช่างอ่อนหวานและแสนดี ขอบคุณที่ฉันได้รู้จักและอยู่ใกล้เธอ"
ลิลลี่เหลือง ลิลลี่ส้มแทนความรักที่สดใส ร่าเริง และเป็นกันเอง
ลิลลี่ชมพูเป็นความหมายของความรักที่ลึกซึ้งกินใจ "ความอ่อนหวานของเธอช่วยเติมเต็มชีวิตฉัน"


เครดิต

วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2557

ดอกทิวลิป

3.ดอกทิวลิป




ทิวลิป เป็นดอกไม้เมืองหนาวที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปยุโรป เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ของฮอลแลนด์ มีอยู่หลายสี ดอกทิวลิปจะปลูกได้ต้องใช้อุณหภูมิที่เหมาะสม คือไม่เกิน 25 องศาเซลเซียส

ที่มาของชื่อ
แม้ว่าทิวลิปจะเป็นดอกไม้ที่ทำให้นึกถึงฮอลแลนด์ แต่ทั้งดอกไม้และชื่อมีที่มาจากจักรวรรดิเปอร์เชีย ทิวลิปหรือ “lale” เช่นเดียวกับที่เรียกกันในตุรกี เป็นดอกไม้ท้องถิ่นของตุรกี, อิหร่าน, อัฟกานิสถาน และบางส่วนของเอเชียกลาง แม้ว่าจะไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นผู้นำทิวลิปเข้ามาทางตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรปแต่ที่สำคัญคือตุรกีเป็นผู้ทำให้ทิวลิปมีชื่อเสียงที่นั่น เรื่องที่เป็นที่ยอมรับกันก็คือ Oghier Ghislain de Busbecqไปเป็นราชทูตของสมเด็จพระจักรพรรดิเฟอร์ดินานด์ที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ในราชสำนักของสุลต่านสุลัยมานมหาราชแห่งจักรวรรดิออตโตมันในปี ค.ศ. 1554 Busbecq บรรยายในจดหมายถึงดอกไม้ต่างๆ ที่เห็นที่รวมทั้งนาร์ซิสซัส ดอกไฮยาซินธ์และทิวลิปที่ดูเหมือนจะบานในฤดูหนาวที่ดูเหมือนผิดฤดู (ดู Busbecq, qtd. in Blunt, 7) ในวรรณคดีเปอร์เชียทั้งสมัยโบราณและสมัยใหม่ต่างก็ให้ความสนใจกับดอกไม้ชนิดนี้ คำว่า “tulip” ที่ในภาษาอังกฤษสมัยแรกเขียนเป็น “tulipa” หรือ “tulipant” เข้ามาในภาษาอังกฤษจากฝรั่งเศสที่แผลงมาจากคำว่า “tulipe” และจากคำโบราณว่า “tulipan” หรือจากภาษาลาตินสมัยใหม่ “tulīpa” ที่มาจากภาษาตุรกี “tülbend” หรือ “ผ้ามัสลิน” (ภาษาอังกฤษว่า “turban” (ผ้าโพกหัว) บันทึกเป็นครั้งแรกในภาษาอังกฤษในคริสต์ศตวรรษที่ 16 และอาจจะมาจากภาษาตุรกีอีกคำหนึ่งว่า “tülbend” ก็เป็นได้)

วิธีการปลูก
วิธีการคือ คุณจะต้องแช่เย็นหัวทิวลิป โดยใส่ไว้ในถุงกระดาษ หรือถุงอะไรก็ได้ที่มีรูระบายอากาศ จาก
นั้นให้นำไปแช่ไว้ในช่องแช่ผัก และทิ้งไว้ 4-6 สัปดาห์ (อาจแช่ไว้ถึง 8 สัปดาห์หากสามารถทำได้) การแช่หัวทิวลิปจะช่วยเร่งการออกดอก ทำให้มีการเปลี่ยนคาโบไฮเดรตให้เป็นน้ำตาลและกระตุ้นการเจริญเติบโตภายในหัว วิธีการนี้จะช่วยเร่งให้ตาดอกเปิดก่อนออกมาพบกับอากาศร้อนด้านนอก และจะช่วยให้บานได้นานขึ้น

ทิวลิปในประเทศไทย
ในประเทศไทย สำนักงานเกษตรที่สูงดอยผาหม่น ได้ปลูกดอกทิวลิป ในพื้นที่เกษตรที่สูง ดอยผาหม่น ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย ตั้งปี พ.ศ. 2549 เพื่อการท่องเที่ยว

ความหมายของดอกทิวลิป
  • ดอกทิวลิปสีแดง หมายถึง ความมั่นคงในความรัก ความจริงจังและจริงใจของผู้ให้ ความซื่อสัตย์และรักอย่างหมดหัวใจ
  • ดอกทิวลิปสีชมพู หมายถึง ความสดใส ความสุขสมหวัง ความรักที่ลึกซึ้ง และความคิดถึง
  • ดอกทิวลิปสีเหลือง หมายถึง เป็นสัญลักษณ์แห่งความผิดหวัง
  • ดอกทิวลิปสีขาว หมายถึง ฉันเสียสละทุกอย่างได้เพื่อคุณ รักที่ไม่หวังผลตอบแทน
  • ดอกทิวลิปสีม่วง หมายถึง ความซื่อสัตย์ ความมั่นคง
  • ดอกทิวลิปสีส้ม หมายถึง ความรักที่ปกปิดซ่อนเร้น ความรู้สึกว้าวุ่น และอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความอ่อนไหว
เครดิต
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%9B

http://www.wanthai.com/howto/how-to-tulip













วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2557

ดอกเยอร์บีร่า

2.เยอร์บีร่า






เยอร์บีร่า เป็นไม้ดอกที่สวยงามขนิดหนึ่งเป็นที่รู้จักและ ปลูกกันแพร่หลายในประเทศไทยมานานหลายสิบปีแล้ว มีถิ่นกำเนิดในอัฟริกาใต้ ในแต่ละวันจะมีเยอร์บีร่าส่งขายที่ปากคลองตลาดเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลและวันสำคัญต่าง ๆ ประเทศไทยนั้น ถือว่ามีสภาพธรรมชาติที่เหมาะสมต่อการปลูกเยอร์บีร่าเป็นอย่างยิ่งไม่ว่าจะเป็นดิน ฟ้า อากาศ น้ำ และดิน ทำให้สามารถปลูกเยอร์บีร่าได้ตลอดทั้งปี
ลักษณะ
เยอร์บีร่าเป็นพวกที่มีลำต้นอยู่ใต้ดิน จะมองไม่เห็นลำต้นชัดเจน มีอายุนานกว่าหนึ่งปี ขึ้นเป็นกอ ใบงอกจากตาใต้ดินมีสีเขียวแก่ ใบปรกเป็นพุ่ม ขอบใบเป็นแฉก แต่ละแฉกหยักลึกไม่เท่ากัน บางแฉกแคบและตื้น แผ่นใบไม่คลี่กางเต็มที่ ขอบใบทั้งสองข้างมักจะหุบเข้าหาเส้นกลางใบเล็กน้อย ทำให้ใบมีลักษณะเป็นรูปตัววีตื้น ๆ หรือลักษณะคล้ายร่องน้ำ ใต้ใบและก้านใบมีขนบาง ๆ อยู่ทั่วไป ช่อดอกมีลักษณะเป็น head ประกอบด้วยดอกย่อยเล็ก ๆเป็นจำนวนมากอัดกันแน่น อยู่บนฐานรองดอก ดอกมีหลายสี เช่น ขาว เหลือง ชมพู ส้ม และแดง

การขยายพันธุ์
เมล็ด
ใช้หน่อ

การปลูกและการดูแล
เยอร์บีร่าเป็นไม้ที่ปลูกง่ายเลี้ยงง่าย การดูแลรักษาน้อย
เยอร์บีร่าควรจะปลูกในดินร่วนซุย มีอินทรีย์วัตถุพอสมควร
การรดน้ำควรรดให้ชุ่มอยู่เสมอ อย่าปล่อยให้ดินแห้ง
หลังจากปลูกแล้วควรจะรอให้ต้นเจริญเติบโต จนยอดใหม่ออกมาและมีขนาดโตพอสมควรจึงจะเริ่มให้ปุ๋ย ซึ่งอาจใช้เวลา 30-40 วัน หลังการปลูก ถ้าให้ปุ๋ยครั้งแรกเร็วเกินไปจะทำให้ใบไหม้ และต้นอาจจะหยุดการเจริญเติบโตได้
อย่าปล่อยให้ดอกบานจนเหี่ยวคาต้น เพราะจะทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับไข่ของแมลง เพิ่มปริมาณศัตรูให้มากขึ้นโดยไม่จำเป็น อีกทั้งดอกที่เหี่ยวคาต้นจะถ่วงต้นเยอร์บีร่า ทำให้จำนวนดอกน้อยลง

ความหมาย
ความหมายของเยอบีร่ามีด้วยกันสองความหมายคือความบริสุทธิ์ไร้เดียงสา กับ ความเข้มแข็ง จึงแปลความมาได้ หมายถึง "จิตใจที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาแต่แฝงไว้ด้วยความเข้มแข็ง" หรือ “เธอคือแสงอาทิตย์ แห่งชีวิตฉัน”

เครดิต

วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2557

ดอกกุหลาบ

1.ดอกกุหลาบ







กุหลาบนั้นมีชื่อสามัญว่า "Rose" ชื่อทางพฤกษาศาสตร์ว่า "Rosa hybrids" และมีชื่อวงศ์ว่า"Rosaceae" ขยายพันธุ์โดยการตอนกิ่ง ลักษณะของกุหลาบนั้นมีทั้งไม้พุ่มและไม้เลื้อย ลำต้นและกิ่งจะมีหนาม ส่วนดอกของกุหลาบจะมีทั้งดอกเดี่ยวและเป็นช่อ กลีบดอกมีลักษณะใหญ่ มีไม่ต่ำกว่า 5 กลีบ กุหลาบนั้นมีกลิ่นหอมชวนดม และมีหลายสี เช่น แดง ขาว เหลือง ชมพู ฯลฯ อีกทั้งยังมีหลายชนิดด้วย  กุหลาบ  เป็นดอกไม้ที่ได้รับความนิยมปลูกมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลกที่มีต้นกำเนิดจากทวีปเอเชีย ผู้คนนิยมปลูกเพื่อความสวยงาม ตกแต่งสวน, ประดับตกแต่งบ้าน, ประดับสถานที่, ปลูกเพื่อการพาณิชย์ อาทิ เพื่อนำไปสกัดน้ำหอม นำไปทำเป็นส่วนประกอบของสปา เป็นต้น
การขยายพันธุ์กุหลาบ
กุหลาบ สามารถขยายพันธุ์ได้หลายวิธี เช่น การตัดชำ การตอน การติดตา และการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพื่อให้ได้ต้นกุหลาบที่มีระบบรากที่แข็งแรง และให้ผลผลิตสูงเกษตรกรมักนิยมกุหลาบพันธุ์ดีที่ติดตาบนตอกุหลาบป่า การปลูกและการจัดการ
สภาพที่เหมาะพสมในการปลูก
พื้นที่ปลูก ควรปลูกในที่ที่ระบายน้ำได้ดี มีความเป็นกรดเล็กน้อย พีเอ็ช ประมาณ 6-6.5 และได้แสงอย่างน้อย 6 ชั่วโมง อุณหภูมิ อุณหภูมิที่เหมาะสมในการเจริญของกุหลาบคือ กลางคืน 15-18 องศาเซลเซียส และกลางวัน 20-25 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นช่วงอุณหภูมิที่จะทำให้ได้ดอกที่มีคุณภาพดี และให้ผลผลิตสูง หากอุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส การเจริญเติบโตและการออกดอกจะช้าอย่างมาก หากอุณหภูมิสูงกว่า 28 องศาเซลเซียส ควรให้มีความชื้นในอากาศสูงเพื่อชลอการคายน้ำ ความชื้น ความชื้นสัมพัทธ์ที่เหมาะสมกับการเจริญของกุหลาบคือร้อยละ 70-80 แสง กุหลาบจะให้ผลผลิตสูง และดอกมีคุณภาพดี ถ้าความเข้มของแสงมาก และช่วงวันยาว
สายพันธุ์
การคัดเลือกพันธุ์กุหลาบในปัจจุบันจะคำนึงถึงประโยชน์ และความคุ้มค่าที่ผู้บริโภคจะได้รับ มากกว่าการที่ดอกสวยสะดุดตาแต่เมื่อซื้อไปก็เหี่ยวทันที ดังนั้นการคัดเลือกพันธุ์กุหลาบในปัจจุบันมักมีข้อพิจารณาดังนี้
  1. มีผลผลิตสูง ปัจจุบันกุหลาบดอกเล็กให้ผลผลิตสูงถึง 300 ดอก/ตร.ม./ปี
  2. อายุการปักแจกันนาน พันธุ์กุหลาบในสมัยทศวรรษที่แล้วจะบานได้เพียง 5-6 วัน ปัจจุบันกุหลาบพันธุ์ใหม่ ๆ สามารถบานได้ทนถึง 16 วัน
  3. กุหลาบที่สามารถดูดน้ำได้ดี
  4. กุหลาบที่ไม่มีหนามหรือหนามน้อยเพื่อความสะดวกในการจัดการ
  5. สี สีแดงยังคงครองตลาดอยู่ รองลงมาคือสีชมพู สีอ่อนเย็นตา และสองสีในดอกเดียวกัน
  6. กลิ่น เป็นที่เสียดายที่กุหลาบกลิ่นหอมมักไม่ทน แต่ก็มีการผสมพันธุ์กุหลาบตัดดอกกลิ่นหอมบ้าง สำหรับตลาดท้องถิ่น
  7. มีความต้านทานโรค และทนความเสียหายจากการจัดการสูง
ความหมายดอกกุหลาบ

ประวัติดอกกุหลาบ พร้อม ความหมายของดอกกุหลาบ




เครดิต